ในบทความก่อนหน้านี้หมอได้กล่าวถึง ภาวะท่อนำไข่ตีบหรือตัน ซึ่งการตรวจเพื่อดูว่าท่อนำไข่ตีบหรือตันหรือไม่นั้น ต้องตรวจด้วยวิธีการฉีดสีดูท่อนำไข่ หรือ Hysterosalpingography หรือ HSG แต่เชื่อว่าหลายอาจกลัวการตรวจนี้ เพราะไม่เข้าใจวิธีการตรวจ วันนี้หมอจะมาเล่าเรื่องนี้ให้เข้าใจง่ายๆว่า การฉีดสีท่อนำไข่คืออะไร? ทำอย่างไร? ต้องเตรียมตัวก่อนไปทำอย่างไร? เดี๋ยวไปติดตามรายละเอียดกันได้เลยนะคะ
การฉีดสีดูท่อนำไข่คืออะไร? (What Is a Hysterosalpingography?)
การฉีดสีดูท่อนำไข่หรือ Hysterosalpingography (HSG) เป็นการ X-ray อย่างหนึ่ง เพื่อดูลักษณะของมดลูกและปีกมดลูก โดยการฉีสีที่สามารถมองเห็นได้จาก X-ray ผ่านทางช่องคลอด เพื่อให้เข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งตามปกติสีจะไหลผ่านโพรงมดลูก ไปที่ท่อนำไข่ทั้งสองข้างและออกมาในช่องท้อง จากภาพ X-ray แพทย์สามารถเห็นความผิดปกติในโพรงมดลูก เช่นติ่งเนื้องอก หรือลักษณะมดลูกผิดปกติ และสามารถเห็นการตีบตันของท่อนำไข่ รวมถึงรูปร่างของท่อนำไข่ด้วย
ใครควรทำการฉีดสีดูท่อนำไข่ หรือ HSG?
คนที่เหมาะจะทำการฉีดสีดูท่อนำไข่คือ
คนที่มีปัญหามีบุตรยากที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ เช่น มดลูกปกติ สเปิร์มปกติ แต่ยังไม่มีลูก
สงสัยว่ามีการอุดตันของท่อนำไข่
มีปัญหาแท้งเป็นอาจิญ
มีประวัติผ่าตัดทางช่องท้องมาก่อน
ประเมินหลังทำหมัน
สงสัยความผิดปกติของตัวมดลูก
การเตรียมตัวสำหรับการทำ HSG
วันที่เหมาะสมในการทำ HSG คือประมาณ 7-12 วัน หลังวันแรกที่มีประจำเดือน ซึ่งก็คือหลังหมดประจำเดือนประมาณ 2-7 วัน แต่ยังไม่ถึงช่วงวันไข่ใกล้ตก ที่สำคัญคือต้องมั่นใจว่าไม่ได้มีการตั้งครรภ์ ถ้ามีความสงสัยว่ามีการตั้งครรภ์ ต้องมีการตรวจเพื่อยืนยันก่อนเสมอ
ควรงดมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่วันที่ประจำเดือนหมด ไปจนถึงวันที่ทำ HSG
เนื่องจากการฉีดสี อาจทำให้เกิดอาการหน่วงบริเวณช่องท้องได้ แพทย์อาจให้ทานยาแก้ปวดกลุ่ม NSAID มาทานล่วงหน้าก่อนทำ HSG 1 ชั่วโมง
แพทย์อาจให้ยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการติดเชื้อหลังทำ HSG
ไม่ควรมีโลหะติดตัว เนื่องจากการตรวจเป็นการใช้ X-ray ในการทำ
หากเคยมีประวัติ แพ้สารทึบรังสี หรือ Contrast media หรืออาหารทะเล ควรแจ้งแพทย์ก่อนเสมอ
ข้อห้ามในการทำ
ตั้งครรภ์
มีประวัติแพ้สารทึบรังสี
ติดเชื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน
ขั้นตอนการตรวจ (What happens during the test?)
การทำ HSG คล้ายการตรวจภายใน คือ คุณจะอยู่บนเตียง ยกขาหยั่ง แพทย์จะใส่ Speculum ทางช่องคลอด เพื่อเปิดให้เห็นปากมดลูกได้ดีขึ้น
แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณปากมดลูก จากนั้นจะสอดท่อเล็กๆ (Cannula) เข้าไปทางปากมดลูก แพทย์จะเอา Speculum ออก จากนั้นจะมีการฉีดสารทึบรังสีเข้าไปในมดลูกผ่านท่อเล็กๆนี้ ซึ่งสารทึบรังสีนี้จะไหลไปในมดลูก และผ่านออกไปทางท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง แล้วไหลเข้าไปในช่องท้อง
จากนั้น คุณจะเข้าไปอยู่ในเครื่อง X-ray เพื่อทำการ X-ray ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนท่าระหว่างการทำ
เมื่อเสร็จสิ้นการทำ HSG แพทย์จะนำท่อเล็กๆออก
หลังเสร็จสิ้นการทำ แพทย์อาจให้ยาแก้ปวด และยาเพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างเหมาะสม
ซึ่งระยะเวลาในการทำเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ 10-15 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นแพทย์จะทำการอธิบายผลการตรวจให้ฟังอีกครั้ง
ผลข้างเคียง
เลือดออกกะปริดกะปรอย มักหยุดเองใน 24 ชั่วโมง
การติดเชื้อ จะมีไข้และตกขาวมีกลิ่นเหม็น 2-4 วันหลังตรวจแต่โอกาสเกิดน้อยเนื่องจากเครื่องมือทุกชิ้นผ่านการฆ่าเชื้อ
อาการปวด มักพบในคนไข้ที่มีท่อนำไข่ตัน มักปวดไม่มากและเป็นไม่นาน
การแพ้สารทึบรังสี ซึ่งพบน้อยมาก
แพทย์จะดูอะไรบ้าง
ดูโพนงมดลูก ว่ามีลักษณะปกติหรือไม่ หรือมีก้อน ติ่งเนื้อที่ผิดปกติ หรือผนังมดลูกมีลักษณะไม่เรียบหรือไม่
ดูท่อนำไข่ทั้งสองข้าง โดยดูว่าลักษณะของสารทึบรังสี ว่าดูปกติ หรือบางข้างมีการโป่งออกผิดปกติหรือไม่
ดูว่าสีสามารถผ่านท่อนำไข่ ออกมาทางช่องท้องได้หรือไม่ ถ้าสีไม่ออกมาในช่องท้อง อาจมีการตีบตันของท่อนำไข่ในด้านนั้น
ซึ่งแพทย์จะทำการแปลผลและวางแผนการดูแลรักษา "ภาวะท่อนำไข่ตีบตัน" ต่อไป หากคุณมีข้อสงสัยอะไร แนะนำว่าควรถามเพื่อความเข้าใจ และจะได้วางแผนการรักษาอย่างถูกต้องค่ะ
จะเห็นว่า การทำการฉีดสีเพื่อดูท่อนำไข่ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครกังวลกันค่ะ แต่ที่สำคัญการทำการตรวจ อาจทำให้เราสามารถวางแผนการมีลูกของเราได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย หมอหวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ แล้วมาติดตามกันใหม่ ในบทความหน้าค่ะ
ผลิตภัณฑ์แนะนำ : https://www.drnoithefamily.com/products
เขียนโดย
Tantawan Prasop. MD (พญ. ทานตะวัน พระโสภา) drnoithefamily
Comments