เป็นที่ทราบกันดีว่า ในช่วงไตรมาส 2 และ 3 เป็นช่วงที่โอกาสแท้งลดลงมากแล้ว ดังนั้น การที่มีเลือดออกในช่วงนี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกว่าการมีเลือดออกในไตรมาสแรกด้วยซ้ำ วันนี้ไปดูกันว่า ถ้ามีเลือดออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 หรือมากกว่า 14 สัปดาห์ขึ้นไป เกิดจากสาเหตุไหนได้บ้างค่ะ
ภาวะเลือดออกทางช่องคลอดในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ต้องให้ความสำคัญ และต้องได้รับการตรวจวินิจฉัย สาเหตุของการที่มีเลือดออกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ที่พบได้บ่อยคือ
1.รกเกาะต่ำ (Placenta previa)
รกเกาะต่ำ หมายถึง รกเกาะบริเวณส่วนล่างของโพรงมดลูก ตำแหน่งที่ใกล้หรือปิดปากมดลูก เป็นสาเหตุหลักของการมีเลือดออกในไตรมาสหลังของการตั้งครรภ์ โดยมีอุบัติการณ์ประมาณ 1 ต่อ 200-250 การตั้งครรภ์ และมีอันตรายต่อทั้งมารดาและทารก จำแนกความรุนแรงของรกเกาะต่ำออกได้ 4 ระดับ ดังนี้
รกเกาะส่วนล่างของมดลูก (Low lying placenta) หมายถึง ขอบรกอยู่ห่างจากปากมดลูกด้านในน้อยกว่า 2 เซนติเมตร
รกเกาะต่ำชนิดเกาะขอบ (Marginal previa) หมายถึง ขอบรกอยู่ชิดกับขอบของปากมดลูกด้านใน แต่ไม่คลุมปากมดลูก
รกเกาะต่ำชนิดสมบูรณ์ (Complete previa) หมายถึง รกเกาะคลุมปากมดลูกด้านในทั้งหมด
รกเกาะต่ำชนิดบางส่วน (Partial previa) หมายถึง รกเกาะคลุมปากมดลูกด้านในเพียงบางส่วน มักจะใช้ในการวินิจฉัยเมื่อมีการเปิดของปาก
2.สายสะดือเกาะที่เยื่อหุ้มเด็กโดยผ่านปากมดลูกด้านใน (Vasa previa)
สายสะดือเกาะที่เยื่อหุ้มเด็กโดยผ่านปากมดลูกด้านในเป็นภาวะที่มีเส้นเลือดทอดผ่านถุงน้ำคร่ำโดยไม่มีรกหรือ Wharton's jelly ปกคลุม อยู่ต่ำกว่าส่วนนำของทารกและใกล้กับปากมดลูกด้านใน ถ้าเกิดมีการแตกของถุงน้ำคร่ำจะทำให้เกิดการฉีกขาดของเส้นเลือดทำให้ทารกเสียเลือดจนถึงแก่ชีวิตได้ การวินิจฉัยภาวะ vasa previa ให้ได้ก่อนคลอดสามารถทำได้ด้วยการตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง
3. รกลอกตัวก่อนกำหนด (Placental abruption)
รกลอกตัวก่อนกำหนดเป็นภาวะที่มีการลอกตัวของรกในตำแหน่งปกติก่อนทารกคลอด ทำให้มีเลือดออกในชั้นใต้รก โดยออกมาจากเส้นเลือด Spiral arteries ซึ่งอาจจะมีเลือดออกทางช่องคลอด หรือคั่งสะสมอยู่หลังรกหรือเยื่อหุ้มเด็ก
การวินิจฉัยอาศัยอาการและอาการแสดงทางคลินิกคือเลือดออกทางช่องคลอด มดลูกหดรัดตัวและกดเจ็บ แต่มีประมาณร้อยละ 10 จะไม่มีเลือดออกทางช่องคลอด เป็นภาวะที่ต้องได้รับการรักษาฉุกเฉิน
4. เลือดออกบริเวณขอบรก (Marginal sinus separation)
เลือดที่ออกบริเวณขอบรกเชื่อว่ามาจากเส้นเลือดดำที่ขอบรก อาจจะเห็นเป็นก้อนเลือดที่ขอบรก ก้อนเลือดสามารถแผ่ขยายออกห่างจากรกโดยแทรกไปในชั้นใต้ Chorion ซึ่งมีความต้านทานต่ำ เลือดที่ออกในลักษณะนี้มีอันตรายน้อยกว่าเลือดที่ออกหลังรกเพราะรบกวนการทำงานของรกไม่มาก
5. เข้าสู่ภาวะเจ็บครรภ์คลอด(Premature labor)
กรณีมีมูกเลือด หรือมีน้ำเดิน ร่วมกับมีการหดรัดตัวของมดลูกอย่างสม่ำเสมอ 4 ครั้งใน 20 นาที หรือ 8 ครั้งใน 1 ชั่วโมง ร่วมกับมีการเปลี่ยนแปลงปากมดลูก โดยมีการเพิ่มขยายปากมดลูกมากกว่า 1 เซนติเมตร และมีความบางตัวตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป อาจเข้าสู่ภาวะคลอดค่ะ
เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์
การมีเลือดออกในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 เป็นภาวะผิดปกติที่ต้องได้รับการตรวจวิฉิจและดูแล ดังนั้นหากแม่ๆ มีเลือดออกในช่วงนี้ ควรไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีค่ะ
หวังว่าแม่ๆ ทุกคนจะมีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ แล้วมาติดตามกันได้ใหม่ในบทความหน้าค่ะ
เขียนโดย
พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai. MD) Dr. Noi The Family
Comments